โควิด...ขวิดช้างซ้ำ ๆ
โดย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของวุฒิสภา
13 มีค. 2564 ที่จะมาถึงเป็นวันช้างไทย....อีกครั้ง
ปางช้าง เป็นกิจการที่ลำบากที่สุดกิจการหนึ่งในปีโควิดที่ผ่านมา ลูกค้าต่างชาติปกติที่มาเยือนปางช้างหายเกลี้ยงเพราะเดินทางมาไม่ได้ ส่วนลูกค้าไทยที่จะไปปางช้างก็ยังมีน้อยเกินกว่าจะทดแทนกันได้ ช้างที่ปางเช่ามา ช้างที่มาอาศัยปางอยู่ ช้างที่เจ้าของเองก็ตกงาน จึงออกจากปาง เดินทางไกลรอนแรมกลับถิ่นเดิม ขอไปตายเอาดาบหน้า ยังดีที่หน้าฝนที่ผ่านมา ผักหญ้าริมทางและตามชายป่าเกิดแตกใบพอมีให้ประทังมาได้ และบัดนี้เข้าถึงฤดูแล้งแล้ว แต่โควิดก็มาระลอกใหม่อีกแล้วเช่นกัน ผักหญ้าชายป่าจะมีเหลือได้อีกไม่นานยิ่งถ้ามีการเผาเตรียมแปลงปลูก ย่อมจะยิ่งอัตคัดใหญ่ การจะดูแลให้ช้างเลี้ยงมีหญ้า มีต้นข้าวโพดสดกินในฤดูแล้งนั้น ปกติจะต้องมาจากการซื้อหาครับ
ช้างแต่ละเชือกกินอาหารราว 10 % ของน้ำหนักตัวมัน หรือเฉลี่ยกินวันละ 200-300 กิโลกรัม แต่ถ้าช้างกินต้นข้าวโพดกับหญ้าอย่างเดียว เค้าจะขาดวิตามิน แล้วในที่สุดก็จะอ่อนแอ ท้องอืด เจ็บป่วย ไม่สบาย การส่งหยูกยาไปให้ถึงช้างก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบัดนี้ช้างกระจายออกนอกปาง ไม่ได้อยู่รวมกัน ไม่มีที่อยู่ที่ชัดเจนแน่นอน คนเลี้ยงจึงจะต้องเสาะหาอาหารเสริมอย่างผลไม้ต่างๆที่พอหาได้มาเติมให้ด้วย อาหารเสริมนั้นราคายิ่งแพงกว่าหญ้าที่ก็หาเริ่มหายากขึ้นอยู่แล้ว ในเมื่อเงินที่เคยได้จากนักท่องเที่ยวมาเลี้ยงทั้งช้างทั้งคนเลี้ยงช้างหายไปตลอดปีที่ผ่านมา ปี2564นี้ จึงเป็นไปได้มากที่เราจะต้องทนเห็นช้างอดโซ ช้างป่วยแล้วไม่ได้เข้าถึงสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ช้างออกมาเดินขายของ ขอรับเงินบริจาค หรือรับจ้างทำอะไรที่ไม่ควรต้องให้ช้างทำ ช้างไม่มีประกันสังคม ไม่มีกองทุนเงินทดแทน ไม่มีเงินสงเคราะห์ ไม่มีเงินชดเชยใดๆ และส่วนใหญ่ ควาญที่ดูแลก็ไม่มีสวัสดิการอะไร และช้างเลี้ยง ไม่มีเสียงในระดับนโยบาย เพราะถูกมองว่าเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงตามพรบ.สัตว์พาหนะ ซึ่งมีเพียงกรมการปกครองกำหนดให้ต้องขึ้นทะเบียนรูปพรรณ เพื่อป้องกันการสวมช้างป่าเข้ามา แปลว่าพรบ. สัตว์พาหนะ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองช้างเลี้ยง ส่วนพรบ.โรคระบาดสัตว์ ของกรมปศุสัตว์ก็มีไว้คุ้มครองสังคมจากโรคระบาดในสัตว์ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองช่วยเหลือช้างตกงาน พรบ.ป้องกันการทารุณสัตว์ก็เอามาใช้ในกรณีช้างตกทุกข์ได้ยากจากสภาพตกงานจากธุรกิจท่องเที่ยวไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะเจ้าของไม่ได้กำลังทารุณช้าง กรมอุทยานฯและกรมป่าไม้เองมีภารกิจคุ้มครองป่าและช้างป่า แต่ไม่สามารถข้ามไปดูแลช้างเลี้ยงซึ่งเป็นทรัพย์สินของเอกชน ถ้าข้ามไปทำก็มีหวังโดนวินัยราชการ เพราะกฏหมายแม่บทของหน่วยไม่ได้ให้ไปทำ ช้างเลี้ยง 3พันเชือกของไทย จึงขาดเจ้าภาพอย่างรุนแรง ยิ่งในภาวะโควิดระบาด ภาวะเศรษฐกิจอ่อนพลัง ชุมชนกำลังอ่อนล้า เมืองต่างๆไม่สนับสนุนให้เดินทางโดยไม่จำเป็น แล้วใครจะไปเยี่ยมช้างล่ะครับ พืชพรรณอาหารช้างหายาก เจ้าของช้างแม้จะรักช้างเพียงใด ก็ต้องลำบากแน่ในการหาให้ช้างแสนรู้และแสนรักมีกินทุกวัน ที่จริงคนเลี้ยงดูช้างก็พลอยตกงานไปด้วย..ปากท้องของลูกเมียก็ต้องดูแล
"สมาคมสหพันธ์ช้างไทย" จึงพยายามมาตลอดปีในการรณรงค์รับบริจาค และจัดระบบส่งต่อความช่วยเหลือ ทั้งทางด้านอาหารช้าง ยาของช้าง จัดหมอและพาหนะรับส่งช้างออกไปช่วย ท่านผู้อ่าน สามารถกดติดตามพวกเค้าทางออนไลน์ได้ไม่ยาก ที่ เวปไซต์ของสมาคม หรือจะทางเฟสบุ๊ค แค่กดค้นหาคำว่า สมาคมสหพันธ์ช้างไทย ก็จะเจอครับ ผมได้ติดตามสถานการณ์ของการช่วยเหลือช้างเลี้ยงมาตลอดหนึ่งปีของโควิด ต้องขอชมเชยยกย่องบรรดาเจ้าของช้างทั่วไทยว่า ทุกคนพยายามสุดกำลังไม่ให้ช้างของตัวต้องอดอยากมาตลอดจะครบปี ทั้งที่ไม่มีรายได้ หรือเงินชดเชย แต่บัดนี้ ทราบมาว่าคนเลี้ยงช้างทั้งหมด ''ตึงมือ''เต็มที่แล้วครับ ช้างเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติ..ช้างเป็นส่วนสำคัญทั้งในวิถีชาวบ้านและในศาสนา และในอีกสามเดือนก็จะถึงวันช้างไทย 13 มีนาคมอีกแล้ว เราจะทำให้13มีนา เป็นวันที่มาทันช้างรอด หรือวันช้างอด ก็อยู่ที่เราจะช่วยกันได้แค่ไหน ใครมีแรง มีพลัง มีทรัพย์ มีพืชผลไม้ ผักหญ้าอาหารช้าง มียา มีรถช่วยส่งของ ส่งยารักษา ก็จำต้องขอแรงขอทรัพย์จากท่านในการบริจาคช่วยช้างให้รอดกันในปีนี้ละครับ
.
-------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------