วีระศักดิ์ โควสุรัตน์’ ซัดคนบางกลุ่มไร้จิตสำนึกเผาป่าหวังเพียงได้หญ้าใหม่ไว้เลี้ยงวัว
ที่มา https://thestatestimes.com/post/2025020311
วัวเหล่านี้มีกลุ่มคนต่างชาติทยอยต้อนมาจากภาคกลางอันแห้งแล้งของเมียนมาร์ ผสมกับวัวปลดระวางจากอินเดียที่มีกม.ห้ามฆ่าโค ดังนั้น วัวถูกลำเลียงมุ่งสู่ชายแดนไทยจีนลาว เพื่อรอส่งข้ามไปขายในจีนและเวียดนาม ซึ่งมีดีมานด์สูง ราคาดี
แต่การส่งมักเอามาขุนในป่ารอยต่อชายแดนไทย เพราะสงบ ไม่มีสงคราม มีน้ำมีป่า ขอแค่จ้างคนท้องถิ่นช่วยดูห่างๆ เลี้ยงปล่อยป่า หาน้ำหาใบไม้ป่ากินในหน้าฝน พอใบไม้ร่วงเต็มป่าก็จะจุดไฟทำลายใบไม้แห้ง เพื่อเปิดดินให้โดนน้ำค้างยามเช้า อาทิตย์เดียวหญ้าจะขึ้นเอง เพราะมีดินมีแดดและมีความชื้นของน้ำค้าง
พวกต้อนวัวมีอาวุธ มีทักษะ มีความสามารถคุ้มครองคาราวานวัวเดินทางข้ามอนุภูมิภาคจากปากีฯ อินเดีย บังคลาเทศ เมียนมาร์ ผ่านชนกลุ่มน้อยติดอาวุธสารพัดแบบ ด่านปศุสัตว์ไทยปืดไม่ให้เข้าตั้งแต่ปีที่แล้ว พวกนี้จึงต้อนวัวเข้าทางธรรมชาติคืนละ 40-50 ตัวไปพักในป่า
คาดว่าเวลานี้มีวัวแบบนี้ ติดโรคระบาดมา เกินหมื่นตัวขึ้นไป ตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ ตั้งแต่ระนองไปถึงแม่ฮ่องสอน วัวจะหากินใกล้ลำธารน้ำ คนเฝ้าจึงทำหน้าที่หาแปลงป่าที่แห้งพร้อมเผาแล้วปล่อยไฟให้กว้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเปิดหน้าดินให้เกิดหญ้าระบัดใหม่ให้วัวได้เล็ม แสบมากครับ
เผาในที่ๆไม่มีถนนหนทาง การตามดู ตามจับ ตามดับยากมากๆ สัตว์ป่า นก แมลง พันธุ์พืช เสียหาย ฝุ่นลอยไปทำลายอากาศได้ไกลข้ามภาคข้ามประเทศ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากมาย
คนต้อนวัวมีหลายกลุ่ม หลายชาติพันธุ์ แต่ไม่ค่อยขัดแย้งกัน รัฐอาจต้องกางนโยบายใหม่ ว่าจะเอาไงกับเรื่องนี้ จับคนก็คงต่องทำและคงต้องระดับตชด.ทหารพราน ต้อนวัวมายึดกักก็ต้องเตรียมคนเตรียมที่กัก สกัดโรคระบาดสัตว์เช้าป่า เช้าเมือง หรือเข้าฟารม์ หรือจะทำอย่างไรก็คงต้องจัดวางนโยบายให้ครบวงจรต่อไป ไม่งั้นไปกันใหญ่แน่นอน
เวลานี้ที่ตาก ปีนี้เป็นแชมป์ไฟป่าบนแนวรอยต่อชายแดนเยอะมาก เป็นกลุ่มไฟป่าที่ใหญ่สุดของประเทศละครับ
วัวปลดระวางย่อมไม่ได้รับวัคซีน เเถมเอามาเดินทางไกล ผ่านสารพัดป่าและเส้นทางสู้รบ ปะปนกันมาเป็นฝูง กินอยู่อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ พยาธิเพียบ แมลงกัดเยอะ แถมมีอายุมาก การรักษาแทบไม่มี วัวเหล่านี้จึงเป็นพาหะที่ต้องระวังมาก เพราะจะจบลงบนจานอาหารทุกตัว ตลาดวัวเถื่อนในไทยก็รับวัวพวกนี้บางส่วนมาเชือดครับ