ท่องเที่ยวต้องปรับระบบครั้งใหญ่ หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงไปมากจากผลกระทบสงครามการค้า อีกทั้งผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ภาคการท่องเที่ยวถือว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังมีงานต้องทำอีกมากเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าอาจถึงเวลาต้องปรับระบบครั้งใหม่และปรับโครงสร้างการท่องเที่ยวของประเทศ
นายวีระศีกดิ์ เปิดเผยผ่านไลน์ส่วนตัว โดยมีใจความว่า นับแต่ที่พ้นจากตำแหน่ง รมว.กก. ออกมาเมื่อ 8 พค. 2562 นับถึงวันที่ครม.ใหม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญานตนก็เป็นเวลา 68 วันหรือ สองเดือนนิดๆ สถิตินักเดินทางต่างชาติที่เข้ามาในไทยเป็นบวกเล็กน้อยต่อเนื่อง
ในแต่ละเดือนยกเว้นช่วงเดือนพ.ค.เท่านั้นที่ลดไปเล็กน้อย คือ -1.03 % แต่พอเข้าเดือนมิ.ย.และก.ค.ก็กลับมาเป็นบวกต่อ และหากเทียบครึ่งปีแรกของปี 2562 กับ ครึ่งปีแรกของปี 2561 ไทยเรามีนักเดินทางต่างชาติเข้ามาเพิ่ม +0.81%
“กล่าวคือ…“ลูกค้ามาแล้วในครึ่งปีนี้ถึง 21,088,051คน โดยครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว 2561 เรามีนักเดินทางต่างชาติเข้ามา 20.9 ล้านคน ” แปลว่าปีนี้ยังเพิ่ม..นิดหน่อย”
ทั้งๆ ที่อัตราค่าแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นแบบผิดหูผิดตามาหลายเดือนแล้ว จึงพูดได้ว่าถ้าท่องเที่ยวไทยไม่ได้มีฐานที่แข็งแรงพอควร ป่านนี้ตัวเลขคนเดินทางเข้าไทยต้องรูดร่วงไปไกล เพราะทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายในไทยย่อมแพงขึ้นทุกอย่าง โดยไม่ตั้งใจ
“แต่จนบัดนี้รายได้ท่องเที่ยวของชาติยังโตกว่าจำนวนคนเดินทางเข้ามาอยู่ดี นี่ไม่นับเงินและจำนวนไทยเที่ยวไทยที่ไปเมืองรองกันมากขึ้นเรื่อยๆ ไหลเป็นลำธาร ไม่ใช่ไหลเป็นน้ำตกนะครับ ดีแล้วครับ พยายามดูแลให้น้ำใสไว้ก่อน บริหารจนชำนาญแล้วมันจะกลายเป็นคลองใสอีกที”
ดังนั้น เราทุกฝ่ายจึงต้องสู้ต่อ พี่น้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังต้องปรับระบบครั้งใหม่และขอย้ำว่าเราควรต้องช่วยให้โครงสร้างการท่องเที่ยว กระจายทั้งตลาด โดยกระจายทั้งที่หมายปลายทางและกระจายผู้ได้รับประโยชน์จากท่องเที่ยวให้มากขึ้นอีกตลาดลูกค้าจากอาเซียนมาเที่ยวบ้านเราใหญ่ขึ้นมาก ซึ่งมาเท่ากับจำนวนชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาเที่ยวไทยแล้ว ในขณะที่ตลาดเอเชียใต้ก็กำลังโตวันโตคืน คือ อินเดีย เนปาล เป็นต้น
นอกจากนี้ ตลาดไต้หวัน ฮ่องกงและญี่ปุ่นก็กำลังโตดีกับตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ เราต้องทำการตลาดกับจีนในมณฑลใหม่ๆจากเดิมให้บ่อยขึ้น รวมทั้งทำกับชาวยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางอย่างมียุทธศาสตร์บ่อยขึ้น ไม่ใช่เพราะอยากได้ลูกค้ามาพร้อมกันมากขึ้น แต่อยากให้มีลูกค้าที่ทยอยมาได้ตลอดปีต่างหาก
“เจาะหากลุ่มนิชที่มีลักษณะเฉพาะเช่น กลุ่มครอบครัว, กลุ่มกีฬา, กลุ่มผจญภัย, กลุ่มสนใจสุขภาพ, กลุ่มดูนก ดูผีเสื้อ, กลุ่มประชุมสัมมนา, กลุ่มดูงาน, กลุ่มศึกษาวัฒนธรรมประวัติศาสตร์, กลุ่มนักชิม, กลุ่มวิ่งเทรล, กลุ่มรถเข็นเด็ก, กลุ่มวีลแชร์, กลุ่มจิตอาสา ฯลฯ”
แต่จะหาใครกลุ่มไหน ก็ควรรู้เรื่องมาตรฐานในการจัดบริการสำหรับกลุ่มแบบนั้นให้มากๆเข้าไว้ทำแพคเกจแบบเหมาๆหยวนๆไม่ได้แล้ว ต้องทำให้ดี อธิบายความเนี้ยบและความยั่งยืนได้เพิ่มทุกเดือนสองเดือน แล้วเราจะมีกิจการที่ยั่งยืน ไม่ฝืนธรรมชาติ และร่วมสร้างการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบได้เต็มพื้นที่หลักและรองเองครับ
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
สมาชิกวุฒิสภา อดีต รมว.กก.
16 ก.ค. 2562
ที่มา ท่องเที่ยวต้องปรับระบบครั้งใหญ่ หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน (businesstoday.co)
---------------------------------------------