ปิ่นโต-กล่องข้าว-ถุงผ้า ทางเลือกรักโลก
ผู้ประกอบการ-นักท่องเที่ยว ขานรับใช้ปิ่นโต ถุงผ้าแทนการนำกล่องโฟม ถุงพลาสติกเข้าไปเที่ยวบนเกาะ อุทยานแห่งชาติทางทะเล ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจกปิ่นโต 500 เถา ตั้งเป้าลดขยะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร้อยละ 50
วันนี้ (4 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เริ่มรณรงค์และขอความร่วมมือ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ทั่วประเทศ งดแจกถุงพลาสติกหูหิ้วพร้อมกัน ขณะที่หลายมาตรการในการรองรับที่ถูกนำมาใช้แก้ปัญหาขยะตก ค้างในสิ่งแวดล้อม เช่น การประกาศมาตรการห้ามนำเข้าโฟม ถุงพลาสติกในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ การรณรงค์ใช้ถุงผ้ารับยากลับบ้าน
เมื่อสัปดาห์ก่อน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ร่วมกันรณรงค์การใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อประชาสัมพันธ์การลดปริมาณขยะพลาสติก
นายวีระ ระบุว่า เพื่อให้แผนลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวลงให้ได้ร้อยละ 50 ในปี 2563 ควบคู่กับรณรงค์ให้การท่องเที่ยวรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดขยะและสร้างขยะหารือพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง และการใช้วัสดุสำหรับทดแทนพลาสติกจากกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น การใช้ถุงผ้า ขวดน้ำพกพา กล่องข้าวพกพา หลอดดูดน้ำจากวัสดุธรรมชาติ การใช้ผ้าเช็ดหน้า จึงร่วมกับภาคเอกชนดึงการใช้ปิ่นโตมาใช้ทดแทนโฟมและพลาสติกในเขตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศนำร่อง 500 เถาแรก เป็นผลิตภัณฑ์ทำจากเมลามีนสำหรับใช้ใส่อาหารและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นำร่อง 10 เกาะทางทะเลแจกปิ่นโต
เบื้องต้นจะนำร่องนำปิ่นโตไปใช้ทดแทนโฟม และพลาสติกในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล 10 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รวมทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากนำข้าวกล่องขึ้นไปกินบนเกาะต่างๆ เพื่อลดใช้โฟมและพลาสติกลงด้วยการหันมาใช้ปิ่นโตแทน คาดว่าจะลดปริมาณขยะบนเกาะได้มาก สอดคล้องกับนโยบายการประกาศงดการนำโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพราะก่อให้เกิดปริมาณขยะพลาสติกและโฟมมากกว่าปีละ 2 ล้านตัน โดยเฉพาะขยะพลาสติกถุงหูหิ้วใช้ครั้งเดียวทิ้งมากถึง 1.2 ล้านตันต่อปี
“นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อนบนเกาะท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้ขยะจากกิจกรรมการท่องเที่ยวมากขึ้นเช่นกัน จำเป็นต้องลดปริมาณขยะจากภาคการท่องเที่ยว และใช้วัสดุที่ทำจากธรรมชาติหรือวัสดุทดแทนโฟม และพลาสติกลงสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล”
นักท่องเที่ยวขานรับใช้ปิ่นโต-ถุงผ้า
นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ กล่าวว่า หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช เริ่มมีมาตรการรณรงค์ห้ามนำโฟม และถุงพลาสติกมาระยะหนึ่ง ภาพรวมได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี
“ก่อนขึ้นเรือว่าขอความร่วมมือว่าห้ามนำโฟม และถุงพลาสติกขึ้นเกาะอย่างเด็ดขาด ทำให้ผู้ประกอบการปรับตัวอย่างเห็นได้ชัด บางกลุ่มใช้ปิ่นโต กล่องใส่อาหารที่ใช้ได้หลายครั้ง ซึ่งมีผลตอบรับดี ชาวต่างชาติชอบมาก ”
นายวรพจน์ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่ผู้ประกอบที่ขานรับ แต่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานในเกาะพีพีทุกคนทั้งที่สำนักงาน และภาคสนามอีก 200 คน ทุกคนก็นำเอาปิ่นโตใส่อาหารมากิน และใช้จานกระเบื้องที่ล้างและใช้ซ้ำได้ และยังมีการคัดแยกขยะออกเป็นประเภทต่างๆ
วันนี้จะรณรงค์ในส่วนของผู้ปกระกอบการร้านอาหาร และร้านค้าในเขตอุทยาน ให้พ่อค้าแม่ค้ามีส่วนร่วมในการงดโฟม พลาสติก และในพื้นที่อุทยาน โดยจะแจกถุงผ้าแจกกับผู้ประกอบการ คาดว่าหลังจากนี้จะสรุปข้อมูลปริมาณขยะที่ลดลงบนเกาะพีพีได้
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
สมาชิกวุฒิสภา รองประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของวุฒิสภา
ที่มา https://news.thaipbs.or.th/content/276086
---------------------------------------------