ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org

เว็บไซต์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
มีความมุ่งมั่นเเละตั้งใจในการเผยแพร่เรื่องราวความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์สังคมด้วย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมกฎหมายและการปกครอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป
มองโลก มองความยั่งยืน
จบปริญญาโท กฎหมายสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อดีตสมาชิกในบ้านพิษณุโลกมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีประสบการณ์พัฒนานโยบายสาธารณะมาต่อเนื่อง เป็นนักกฎหมายที่เชื่อมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ผู้ที่มีความมุ่งมั่นเเละมีอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์สังคมที่มีความเท่าเทียม การพัฒนาประเทศไทยให้มีความทันสมัย เจริญเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

สำรวจภายในโพรงถ้ำหลวง

 

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563 วันนี้ทำเวลาอุตลุตครับยอมอดข้าวเที่ยง..เพื่อจะได้ทันทุกกิจกรรมของวันนี้ตามที่ผมตั้งใจเดินทางมาถึงยังถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย..
ลงจากเครื่องบินก็ไม่หยุดที่ใด..มุ่งตรงมาถึงที่หน้าทางเข้าถ้ำประมาณ 10.00 น. พอดีมีเวลาให้คุณเวิรน์ อันสเวิรด์ คุณจอช มอริสัน และทีมเจ้าหน้าที่ทั้งจากกรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี.. นักวิชาการด้านถ้ำและธรณีวิทยา..
และอดีตนายตำรวจท่องเที่ยวที่เคยรับมอบหน้าที่ดูแลนักดำน้ำถ้ำทีมอังกฤษทั้งทีม..
พาผมเข้าไปสำรวจภายในโพรงถ้ำได้สัก 3 ชม.ไม่ขาดไม่เกิน...เพราะต้องกลับออกมาล้างตัวเปลี่ยนชุดให้ทันเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารถ้ำแห่งชาติ ที่อาคารอำนวยการใกล้ปากถ้ำตอน 13.30 น.ให้ทัน..
เพราะท่านรัฐมนตรี วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเข้ามานั่งเป็นประธานการประชุมนี้ด้วยตนเอง
เราจึงเร่งฝีเท้าในถ้ำกันทั้งขาเข้า..และขาออก..
ตลอดระยะทาง 2.8 กิโลเมตรที่เราไต่ลึกเข้าไปจากโถงหนึ่ง (ซึ่งตอนนี้มีการติดไฟ LED ใต้ราวจับทางเดิน มีไฟLED ส่องขึ้นเพดานบ้าง..หลืบถ้ำในโถงหนึ่งบ้างอย่างสวยงาม..และไม่ก่อให้เกิดความร้อนในโพรงถ้ำ..ไม่ทำให้ความชื้นธรรมชาติของถ้ำลดไป..แถมใช้พลังไฟน้อยมาก... อันนี้ต้องปรบมือให้ทีมกระทรวงทรัยพากรธรรมชาติครับ..ทำได้สวยงาม..ไม่มากไปน้อยไป..)
ตอนที่น้อง ๆ หมูป่าติดอยู่ในถ้ำนั้น.. น้อง ๆ อยู่ประมาณลึกเข้าไปเกินจากเนินนมสาว..คือราวโถงที่เก้าหรือราวๆ 3 กม.เต็มจากปากถ้ำ 
วันนี้..ทีแรกเราตั้งใจจะไปสักครึ่งทาง..เพื่อจะไปให้เห็นจุดที่เรียกกันว่า"สามแยก"
เพราะนี่คือจุดที่ผ่านยากที่สุดจุดแรก..ในวันที่มีสภาพน้ำท่วมถ้ำ..
จากจุดนี้ไปหาเด็กๆ..จะเป็นการดำน้ำยาวๆ..ผ่านช่องหลืบที่แคบ..ลึก..และ..คม!!
เลยอยากเห็นสามแยก..ว่ามันสามแยกยังไง..ทำไมมันถึงยาก
แล้วพอเหนื่อยหอบกันได้พอควรก็ถึงสามแยกครับ
เหมือนตัว T ดีๆนี่เอง
คุณเวิรน์อธิบายว่าน้ำไหลเข้ามาอย่างแรงจากแขนตัวTข้างขวา แล้วมุ่งต่อไปแขนตัวTด้านซ้าย
แถมพาเอาตะกอนทรายเข้ามา
และพอเราถึงสามแยกก็ย่ามใจ
ขอไปต่อ..ต้องมุดคลาน จนอกแตะพื้นก็ยังยอม..ถามสาวๆ นักธรณีวิทยาว่าจะพอแค่นี้ก่อนก็ได้..แต่สาวๆ ยืนยันว่ายินดีตามไปด้วย
ถึงไหนถึงกัน...
เราเลยลุยต่อ..มีทั้งคลานทั้งย่อ..ทั้งเดินทั้งย่อง!!
แถมมีข้ามลำน้ำเล็กๆในถ้ำลึกๆด้วยสะพานที่ทำขึ้นง่ายๆจากไม้ไผ่ 5-6 ลำที่คุณเวิรน์ เพียรขนเข้ามาผูกทำสะพานให้คนอื่นๆได้ผ่านจุดนี้แบบไม่ต้องถุงเท้าเปียก(folded hands)
ส่วนอุณหภูมิวันนี้นอกถ้ำคือ 18° C
ในในถ้ำจะเย็นกว่าข้างนอกราว 2°C
แต่ถ้าช่วงใดที่ถ้ำมีความแคบลงยิ่งมาก..อากาศในถ้ำช่วงนั้นจะถูกบีบอัด..ทำให้อากาศเคลื่อนตัวเร็วกว่าช่วงที่เจอโถงถ้ำกว้าง....อุณหภูมิก็จะลดลงไปอีก
ส่วนร่างกายเราหลังใช้พังงานไปในถ้ำ..เราจะเห็นไอระเหยของเหงื่อร้อนๆจากตัวเราลอยให้เห็นจะๆ เลยทีเดียว
นี่ขนาดวันที่ถ้ำแห้งนะครับ..และคำว่าแห้งนี้แปลว่าถ้ำชื้น..มีความแฉะเป็นช่วงๆ..ไม่ใช่แห้งผาก
ถ้าไม่ใช่ว่าวันนี้ผมได้รับแจ้งให้เตรียมอุปกรณ์มาให้ครบ..ไม่งั้วันนี้คงได้แผลถลอกกลับบ้านหลายๆจุดทั่วตัวแน่...
แต่ดีที่เตรียมทั้งหมวกสำรวจถ้ำ (ซึ่งคล้ายหมวกปั่นจักรยานนี่แหละ..แต่จะไม่มีโพรงระบายความร้อนเพราะหมวกเข้าถ้ำและปีนผานั้น..ต้องปิดมิดชิดป้องกันเศษสะเก็ดหินคมๆ ที่อาจร่วงใส่
ต้องสวมถุงมือที่หนาตามควรเพราะต้องใช้ในการจับขอบหินคมๆ..รวมทั้งลงคลานแทบจะแนบหน้าอกกับพื้นหินพื้นทรายเย็นเจี้ยบ..รวมทั้งจะช่วยได้ดีเมื่อต้องดึงและจับเส้นเชือกที่ช่วยให้เราก้าวปีนขึ้นและลงจากกองหินขนาดใหญ่ๆ
ต้องมีไฟฉายที่หมวก..เพราะมือน่าจะไม่ว่างพอที่จะถือไฟฉาย..และไฟที่ส่องจากหน้าผากจะช่วยให้สายตามองเห็นก้าวข้างหน้าได้ง่ายกว่า
ส่วนรองเท้า..ก็ใส่หุ้มข้อป้องกันข้อพลิกจากการที่พื้นหลายช่วงเต็มไปด้วนความขรุขระ..หัวรองเท้าต้องปิดมิดชิด..เพื่อป้องกันหินคมๆบาดเอา..และควรจะกันน้ำได้บ้าง..จะได้ไม่ทำให้ถุงเท้าเปียกง่ายๆ
พื้นรองเท้าควรมีร่องลึกๆเพราะพื้นในนั้นจะมีช่วงที่ลื่นเป็นดินเลนบ้าง..เป็นหินที่เปียกชื้นบ้าง
ส่วนน้ำดื่ม..ถ้าเอาติดตัวไปก็จะชื่นใจดี..เพราะไกลเอาเรื่อง..อีกอย่าง..ควรใส่เสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันการขูดข่วนจากขอบหินข้างผนังถ้ำ..
และถ้ามีสนับเข่าก็จะช่วยลดการบาดเจ็บได้เพราะการคุกเข่าลงบนพื้นขรุขระหลายๆ หนหลายๆ จุดนั้น..นับว่าเอาเรื่องเหมือนกัน
ส่วนที่ผมเตรียมเป้เล็กและกระเป๋าย่อยคาดเอวบ้าง..สะพายไหล่บ้าง..ก็เพื่อจะได้มีผ้าขนหนูเล็ก..มียา..มีไฟฉายและแบตสำรอง..มีขนมขบเคียวเผื่อฉุกเฉิน..
แต่ด้วยความรีบเร่งทำเวลา..
เป็นอันว่าแบกไปแบกกลับโดยไม่มีจังหวะให้ได้คิดเปิดออกมาใช้งานสักหนเดียว..ฟาลว์ไป..
พอพ้นโถงหนึ่ง..ไฟ LED ก็หมดลง..
ทีนี้ก็จะได้สัมผัสความมืดสนิท...
เราผ่านเนินต่างๆ..ทั้งเนินที่หน่วยซีลใช้ตั้งฐานปฏิบัติการ..ทั้งเนินที่กำหนดว่าจากจุดนั้น..มีแต่นักดำน้ำเท่านั้นที่จะไปต่อได้..
ทั้งเนินที่ระบบรอกถูกติดตั้งขึงตึงเอาไว้เพื่อลดความเสี่ยงของทีมขนอุปกรณ์..และขวดอากาศในการข้ามพื้นที่ๆเดินยากหรือไกลกันมาก...เนินที่พักของนักดำน้ำสถานีต่างๆ..
ตลอดทางไปจนถึงที่น้องๆเคยติดอยู่..เราจะสามารถเห็นสายสื่อสารเส้นเล็กๆ..ถ้าตื้นออกมาหน่อยจะยังเห็นสายอากาศออกซิเจนที่ทีมกู้ภัยพยายามวางสายอัดอากาศออกซิเจนเพื่อหวังจะส่งอากาศเข้าไปให้ถึงโพรงตรงเนินนมสาวที่เด็กๆติดอยู่..
แต่ในที่สุดสายออกซิเจนก็ไปยังไม่ถึง..เพราะมันไกลเหลือเกิน
ตื้นออกมาอีก ก็จะพอได้เจอท่อสูบน้ำสีส้มที่ใช้ปั้มน้ำส่งออกมาจากจุดน้ำท่วมในถ้ำ
วันนี้ที่ได้เจอเพิ่มคือ หมุดมารค์ของการวางและเล็งสำหรับเครื่องสำรวจถ้ำด้วยระบบเลเซอร์สามมิติ..
ทำโดยบริษัท ผลิตเลนส์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกคือ Leica (ไลก้า)
เครื่องนี้จะสามารถเก็บทุกรายละเอียดทีละโพรง ทีละท่อน ของถ้ำหลวงและทำให้เป็นภาพสามมิติ...ซึ่งจะสามารถทำให้เราสร้างโพรงถ้ำจำลองตั้งแต่ขนาดจิ๋วจนถึงเท่าขนาดจริงที่ไหนก็ได้..ถูกเป้ะทั้งความสูง..ความขรุขระของผิวถ้ำแต่ละช่วง
แถมยังอาจนำไปทำเป็น Vurtual reality ให้เล่นเป็นเกมส์..
หรือใช้ประกอบการฝึกจำลองสถานการณ์ก็ได้ในอนาคต
อย่างที่บอก..วันนี้ตั้งใจจะไปถึงแค่สามแยก...แต่พากันสนใจ...จนมุดและทะลุด่านไปเรื่อยจนถึงโน่นครับ
โถงแปด!!
ที่นั่นมีน้ำแร่ธรรมชาติใสสะอาดเย็นฉ่ำที่ไหลเป็นสายเล็กๆ ลงมาจากเพดานถ้ำพอให้ได้ดื่มชื่นใจ..พวกทีมดำน้ำถ้ำก็อาศัยดื่มเสมอ..ช่วงที่ต้องเข้ามาทำภารกิจนานๆในถ้ำ
เท่าที่เดินกันเข้ามาลึกถึงโถงแปดก็มีน้ำให้ดื่มได้สบายใจก็จุดนี้แหละ
ทรายที่เราเดินย่ำผ่านหลายๆช่วงนั้น..หนาเป็นสิบเมตร!!
มันจึงเป็นตระแกรงกรองอย่างดี
ข้อมุลบอกว่า...เด็กๆติดอยู่โถงเก้า
ระหว่างที่เรากำลังมุดหลืบถ้ำที่เพดานเตี้ยมากจนหน้าแทบจะมุดทรายระหว่างออกจากโถงแปดเพื่อไปโถงเก้านั้น
นาฬิกาข้อมือผมชี้ว่าจะเที่ยงวันแล้ว
เราได้เข้าถ้ำมาสองชั่วโมงแล้ว..จะต้องรีบกลับออกและ...วิ่ง...ใช่ครับ..วิ่ง!!
เพื่อกลับถึงปากถ้ำให้ได้ในชั่วโมงเดียวให้ได้...ไม่งั้นไม่ทันเวลาเริ่มประชุม
เราเลยจำใจมุดกลับ..
แล้วตั้งหน้าตั้งตาเดินสลับวิ่ง..แต่กระนั้นก็ต้องมี "ย่อง" เป็นบางจุด..เพราะมีทั้งช่วงที่พื้นลื่นทั้งช่วงที่ขรุขระ
แล้วทุกคนก็ทยอยออกถึงปากถ้ำ..
ในสภาพที่มอมแมมเปื้อนดินเปื้อนทรายออกมา
แต่ทุกคนก็เปี่ยมด้วยความซาบซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอันซับซ้อน..
ภูมิใจที่ได้ไปสัมผัสความยาก..ความกล้า..ความเสียสละและทุ่มเทของทีมช่วยเหลือน้องๆ หมูป่า
และพอจะเห็นถึงความ "สามารถ" ของน้องๆ หมูป่าที่ไม่มีอาหาร..ไม่มีเครื่องกันหนาว..และกำลังจะไม่มีออกซิเจนเพียงพอต่อการหายใจ..
มีเพียงกันและกัน..
และมีความ"นิ่ง"ของจิต..
ในการรอ..
เรากลับออกมาล้างตัวเปลี่ยนชุดกันอย่างคล่องแคล่วแล้วเข้านั่งในที่ประชุม ที่เริ่มฉายวีดิทัศน์สรุปความก้าวหน้าของงานพอดี..
โดยไม่มีใครได้ทานเที่ยงแม้แต่คนเดียว..และร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการประชุมจนจบการประชุมเมื่อ 15.45น.
แล้วตามท่านรัฐมนตรี..ปลัดกระทรวง..และอธิบดีและผู้บริหารต่างๆ มาเดินฟังบรรยายสรุปจากหน่วยและทีมที่เตรียมนิทรรศการให้ความรู้ที่หน้าถ้ำต่อ
จากนั้นได้พบคุณครูของสี่โรงเรียนในรอบบริเวณแม่สาย ที่ดึงเอาสารพัดมิติแห่งความรู้ที่ถอดออกมาได้จากความจริงของถ้ำหลวงฯ และปฏิบัติการกู้ภัยช่วยหมูป่า..ที่เอามาทำเป็นสาระการเรียนรู้เพื่อจะเริ่มทดลองบรรจุเข้าในหลักสูตรชั้น มัธยมสองของทั้ง 4โรงเรียนใน พฤษภาคม 2563 นี้เป็นครั้งแรก
เด็กๆรอบๆ ถ้ำหลวงเหล่านี้จะมีทั้งความรู้ภาคทฤษฏีและปฏิบัติ..จากการได้อยู่ใกล้สถานที่จริงอย่างเข้าใจ..เข้าถึง..และร่วมภูมิใจกับการเป็นเจ้าของเรื่องราว
เรื่องราวที่ไม่ว่าเขาจะโตไปเป็นอะไร..เดินทางไปไกลแค่ไหน..
เขาจะสามารถเล่าเรื่องชุมชนหมู่บ้านตำบล อำเภอของเขา...ด้วยความภูมิใจ..เห็นภาพ..เข้าใจ..และแตกฉาน
และผู้ที่ได้รับฟัง..จะต้องประทับใจ..และเลื่อมใสในหลายหลากมิติของถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน..และปฏิบัติการที่ได้รับน้ำพระราชหฤทัยของเจ้านาย..น้ำใจของคนไทยและโลกทั้งใบ..ที่ได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน..ผ่านปฏิบัติการอันทรงพลัง..ที่มนุษยชาติ..มั่นใจในการมีกัน...และ..กัน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
สมาชิกวุฒิสภา
อดีตรมต.ท่องเที่ยวและกีฬา
 
 
 

ที่มา "วีระศักดิ์-อนุพงษ์"บินลงพื้นที่ถ้ำหลวง (komchadluek.net)

---------------------------------------------