ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org

เว็บไซต์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
มีความมุ่งมั่นเเละตั้งใจในการเผยแพร่เรื่องราวความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์สังคมด้วย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมกฎหมายและการปกครอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป
มองโลก มองความยั่งยืน
จบปริญญาโท กฎหมายสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อดีตสมาชิกในบ้านพิษณุโลกมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีประสบการณ์พัฒนานโยบายสาธารณะมาต่อเนื่อง เป็นนักกฎหมายที่เชื่อมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ผู้ที่มีความมุ่งมั่นเเละมีอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์สังคมที่มีความเท่าเทียม การพัฒนาประเทศไทยให้มีความทันสมัย เจริญเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

ปัญหาวัวเถื่อนกับฝุ่นควันพิษ

 

ที่มา https://www.thairath.co.th/news/politic/2841046

มาตรการรับมือไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมจับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะไฟป่าที่สามารถเกิดขึ้นเอง โดย ตามธรรมชาติแม้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่สาเหตุหลักเกิดจากฝีมือของมนุษย์

ยิ่งสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ช่วงฤดูแล้งยาวนาน เป็นปัจจัยทำให้ไฟป่ารุนแรงมากยิ่งขึ้น ล่าสุดเกิดไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติดอยสอย มาลัย-ไม้กลายเป็นหิน จ.ตาก เผาผลาญพื้นที่ไปราว 5-8 หมื่นไร่ นับเป็นไฟป่าใหญ่ ที่สุดของไทยเวลานี้ เผาผลาญต้นไม้ สัตว์ป่า ถูกย่าง ส่งฝุ่นควันขึ้นฟ้ามหาศาล

ต้องเปิดปฏิบัติการดับไฟป่าโดยใช้ เฮลิคอปเตอร์ โดยการสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ช่วยลดความรุนแรงของไฟ ควบคุมไฟได้บางส่วน ชะลอการลุกลาม เปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการต่อทางภาคพื้นดิน แต่ทีมสนามที่ลุยปะทะหน้าไฟยังควบคุมไฟไม่ได้ทั้งหมด ยังขยายตัวอยู่ในบางทิศทาง

ต้นเหตุไฟป่าครั้งนี้พบว่าเกิดจาก การเลี้ยงวัวในป่าอนุรักษ์ คนเฝ้าวัวจุดไฟเผาป่าที่แห้งแล้ง ปล่อยไฟไหม้ให้กว้างที่สุด เพื่อเปิดหน้าดินให้โดนน้ำค้างยามเช้า แค่หนึ่งสัปดาห์หญ้างอกเติบโตเป็นหญ้าอ่อน เพื่อเอาไว้เลี้ยงวัวเถื่อน งานนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจ กรุงเทพฯ ถึงขั้นใช้คำว่า “เลี้ยงวัวบนปอดคน”

สถานการณ์เช่นนี้จะทำให้ระบบ นิเวศเสียสมดุลในระยะยาว แม้รัฐบาลใช้ยาแรงตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ เผาป่า ในเขตอุทยาน มีโทษหนักจำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 2 ล้านบาท แม้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กำชับเข้มใครเผาต้องดำเนินคดี ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ทางการไม่สามารถจัดการกับคนเหล่านี้ได้

เพราะมีหลายกลุ่ม หลายชาติพันธุ์ ทยอยต้อนวัวเถื่อนมาจากภาคกลางที่แห้งแล้ง ของเมียนมา ผสมกับวัวปลดระวางจากอินเดีย โดยต้อนข้ามมาตามช่องทางธรรมชาติ คืนละ 40-50 ตัว ป้องกันถูกยึดถ้าโดนจับ โดยส่งมาขุนในป่ารอยต่อชายแดนไทย จ้างคนท้องถิ่นเลี้ยง จังหวะดีๆขายราคาถูกๆ ให้พ่อค้าคนไทยสวมสิทธิ์เป็นวัวไทย

ที่เหลือขุนวัวให้อ้วนก่อนส่งขายให้จีน เวียดนาม ลาว ขบวนการค้าวัวเถื่อนร่ำรวย แต่ทิ้งปัญหาใหญ่ให้คนไทย ทั้งโรค ระบาดสัตว์ จุดไฟเผาป่า เข้าเมืองผิดกฎหมาย ฉะนั้นรัฐบาลอย่าจัดการเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถึงเวลาต้องมีนโยบายสะสางปัญหานี้ โดยจับผู้ทำผิดยึดวัวเพื่อสกัดโรคระบาดสัตว์เข้าไทยและช่วยลดฝุ่นควันพิษ.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม