ตรุษจีนปีกระต่าย คนไทย-ประเทศไทย เซ็งลี้ฮ้อ
ขณะที่จำนวนคนกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมกิจกรรมช่วงตรุษจีน อาจเพิ่มขึ้นราว 1.5% จากปีก่อน โดยเฉพาะการกลับมาทำกิจกรรมท่องเที่ยว/ทำบุญ/ทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ภายหลังหมดเทศกาลตรุษจีน คาดว่าคนกรุงเทพฯ จะกลับมาวางแผนใช้จ่ายอย่างรัดกุมมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยของธนาคารกสิกรไทยจำกัดวงอยู่แค่การจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ เท่านั้น ธนาคารกสิกรไทย ไม่ได้ทำวิจัยรวมอีก 76 จังหวัด ที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่หลายล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำวิจัยของธนาคารกสิกรไทย ไม่ได้รวมการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆที่จะเข้ามาท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยทั่วประเทศไทยในเทศกาลตรุษจีน
ซึ่ง อาจารย์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกกับแนวหน้าว่า "คนจีนจะมาเที่ยวเมืองไทยจำนวนมากในเทศกาลตรุษจีน 2566 แต่ไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าทะลักเข้ามา เพราะคนจีนยังต้องต่ออายุหนังสือเดินทางกลับยังต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานกงสุลไทยตรุษจีนปีนี้ผมยังไม่คาดว่าจะมาอย่างทะลักทลายนะครับ คนจีนมามากแน่แต่ไม่ทันตรุษจีนนี้ในฉับพลันทันทีครับ. เชื่อว่าเราจะเห็นการฟื้นคืนถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนนักเดินทางต่อเดือน ในเดือนกุมภาฯ มีนานี้มากกว่า.
นอกจากประเมินด้วยตัวเองแล้ว อ.วีระศักดิ์ ยังส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ มาให้อ่านดังนี้...ล่าสุด Ctrip.com หนึ่งในแอปพลิเคชั่น ให้บริการจองผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ของจีน ได้เผยแพร่ "รายงานการประเมินผลตลาดท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน พบว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2566 นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และประเทศอื่นทั่วโลก ให้ความสนใจเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นหลัก ซึ่งคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ อาจเป็นอุตสาหกรรมเดียวฟื้นตัวในโลกที่ฟื้นตัวภายในปี 2566
โดยจากยอดการค้นหาเที่ยวบินในช่วงตรุษจีนประเทศไทย เป็นปลายทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกถึงร้อยละ 26.7% สูงเป็นอันดับหนึ่ง ขยับขึ้นมาจากอันดับสองในปี 2565 ขณะที่ปลายทางอื่นๆ มียอดค้นหารองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น ร้อยละ 19.41 สิงคโปร์ ร้อยละ
17.58 ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 9.8 มาเลเซีย ร้อยละ 8.47 ไต้หวัน ร้อยละ 5.62 เกาหลีใต้ ร้อยละ 5.33 จีน ร้อยละ 4.36 ฮ่องกง ร้อยละ 2.66
เมื่อประเมินจาก แอปพลิเคชั่น Ctrip.com ซึ่งให้บริการจองผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ของจีนที่ เปิดเผยว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยวประเทศเอเชีย-แปซิฟิกในเทศกาลตรุษจีน 2566 จึงอนุมานว่าจะมีเงินหมุนเวียนในเทศกาลตรุษจีนปีกระต่าย มากกว่าที่ธนาคารกสิกรไทยทำวิจัยการใช้จ่ายเฉพาะคนในกรุงเทพฯ คือ 12,330 ล้านบาท หลายเท่าจึงสรุปในทางที่ดีว่าตรุษจีนปีกระต่ายนี้พูดได้ว่า ประเทศไทย "เซ็งลี้ฮ้อ" และขอให้คนไทยเชื้อสายจีน และคนไทยทั่วไป "เซ็งลี้ฮ้อ" ตลอดปีและตลอดไป
สุทิน วรรณบวร ที่มา https://www.naewna.com/politic/columnist/54004