ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org

เว็บไซต์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
มีความมุ่งมั่นเเละตั้งใจในการเผยแพร่เรื่องราวความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์สังคมด้วย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมกฎหมายและการปกครอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป
มองโลก มองความยั่งยืน
จบปริญญาโท กฎหมายสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อดีตสมาชิกในบ้านพิษณุโลกมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีประสบการณ์พัฒนานโยบายสาธารณะมาต่อเนื่อง เป็นนักกฎหมายที่เชื่อมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ผู้ที่มีความมุ่งมั่นเเละมีอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์สังคมที่มีความเท่าเทียม การพัฒนาประเทศไทยให้มีความทันสมัย เจริญเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

บรรยายพิเศษในการอบรมหลักสูตร ผู้นำการค้าโลก หรือ Top X รุ่นที่ 2

 

25 สิงหาคม 2566 ในการอบรมหลักสูตร ผู้นำการค้าโลก หรือ Top X รุ่นที่ 2 จัดโดยความร่วมมือระหว่าง หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการนำเข้าเเละส่งออกแห่งประเทศไทย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ ณ โรงแรม Chatrium Residence สาธร โดยมีสาระสำคัญจากการบรรยายโดยสรุปได้ว่า

อุณหภูมิโลกสูงที่สุดเมื่อกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นบันทึกหน้าประวัติศาสต์ใหม่ของอุณหภูมิโลก ที่เลขาธิการสหประชาชาติแถลงว่านั่นเป็นเป็นการสิ้นสุดยุค “โลกร้อน Global Warming ” แต่ได้เข้าสู่ยุค “โลกเดือด Global Boiling” ไปแล้ว

เนื่องจากเมื่อวัดอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นทั้งบนพื้นผิวดินและพื้นผิวน้ำ รวมถึงลดอัตราการเกิดน้ำแข็งทั้งในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ส่งผลให้กลไกธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปจนอาจเลยจุด ‘’ tipping point ‘’ที่ไปกระทบกลไกสำคัญทางธรรมชาติต่ออีกเป็นลูกโซ่มากมาย เช่น การไหลเวียนช้าลงของระบบใต้มหาสมุทรโลก ( The Great Conveyer Belt “ การเกิดปรากฏการณ์ภัยแล้ง ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในยุโรปใต้ ฮาวาย เกาหลีใต้และแคนาดา น้ำท่วมหลากครั้งใหญ่ในอินเดีย ปากีสถาน จีน เกาหลีใต้จากพายุฝนในหลายภูมิภาคของโลกแบบฉับพลันในปีนี้ เป็นอาทิ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงผิวหน้าของผลกระทบบางส่วน ซึ่งหากไม่ตระหนักถึงสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงแล้ว จะยิ่งส่งผลให้อุณหภูมิโลกและน้ำทะเลยิ่งมีความร้อนเร็วยิ่งขึ้น

และกำลังจะถึงหลายพื้นที่ร้อนจนเซลล์บางส่วนในพืช สัตว์หรือมนุษย์ก็จะทนไม่ได้ แม้อาจไม่ถึงตายแต่ก็ทำให้เซลล์เครียด ไม่ได้พักผ่อน และอ่อนแอจนหมดภูมิป้องกันตนเอง

ผลกระทบจากสภาวะโลกเดือด เฉพาะในภาคเกษตรกรรม ระดับเบื้องต้น สภาพอากาศแปรปรวนได้ส่งผลต่อการเพาะปลูก ทำผลผลิตไม่ได้ตามเป้าหมาย กระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร และทำให้ค่าครองชีพแพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในภาคปศุสัตว์ อุณหภูมิที่เพิ่มสูงส่งผลให้เกิดความเครียดจากความร้อนทำให้สัตว์หลับพักผ่อนไม่สนิท ภูมิคุ้มกันต่างๆลดลง ในภาคการประมงปลาน้ำตื้นจำต้องดำลงลึกไปหาเขตน้ำเย็นกว่า แต่ไม่ใช่บริเวณระดับปกติที่ตัวเคยหากิน ทำให้กระทบการเจริญเติบโต และส่งผลให้ประมงชายฝั่งเสียหาย ส่วนประมงน้ำลึกก็ถูกกระทบจากความถี่ของพายุในมหาสมุทรบ่อยขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ภาครัฐ เอกชน รวมถึงผู้ประกอบการ จำต้องเตรียมรับมือมาตรการต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยภาครัฐควรเร่งการจัดตั้ง คณะกรรมการภาครัฐร่วมเอกชน หรือ กรอ.สิ่งแวดล้อม เพื่อทำหน้าที่ประสานและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต