บรรยายสรุปความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยที่มีผ่านแม่น้ำ ในกิจกรรมล่องเรือราชนาวี River of the Kings
1 ตุลาคม 2565 คณะบุคคลจากวงการต่างๆ ที่ร่วมกันบริจาคทรัพย์ผ่าน คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย มูลนิธิธรรมดี เพื่อสมทบกองกฐินสร้างพระพุทธรูปขาวองค์ใหญ่ที่ วัดป่าโรงถ่าน เกาะช้าง จังหวัดตราด เดินทางมาร่วมกันลงเรือ ’’อังสนา’’ ของ กองทัพเรือ ที่ ท่าน้ำหอประชุมกองทัพเรือ ตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวัง เพื่อล่องไปตามลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อร่วมกันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงเชื่อมและผูกพันกับแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านยุคสมัยต่างๆ จากอดีตจนปัจจุบัน
ในกิจกรรมนี้ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับเชิญให้ขึ้นกล่าวต้อนรับและบรรยายสรุปถึงความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยที่มีผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาจนสร้างความร่มเย็นไปถึงพสกนิกรชาวไทยว่า
‘’…พระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาในหลายๆรัชสมัย ได้ทรงโปรดฯให้มีการขุดคลองเพื่อลัดแม่น้ำเจ้าพระยาถึง 3 ครั้ง นำมาซึ่งการสัญจรที่ร่นระยะเวลาเดินเรือสำเภาเข้าออกจากปากอ่าวมายังราชธานี จึงทำให้กรุงศรีอยุธยามิได้เป็นเพียงราชธานี แต่เป็นเมืองท่าค้าขายเปิดเชื่อมกับโลกสากล ในขณะที่ก็ทรงสถาปนากองเรือรบเพื่อรักษาพระนครที่มีสภาพเป็นเกาะกลางลำน้ำที่มาบรรจบกันถึง 3 สายที่เกาะกรุงของพระนครศรีอยุธยา เพื่อปกป้องภัยจากศัตรู จึงเป็นการพระราชทานทั้งความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ชาติและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และเปิดประตูทางวัฒนธรรมให้แก่ราษฏรมายาวนานยิ่ง การเสด็จประพาสต้นทางน้ำก็ดี การเสด็จถวายผ้าพระกฐินด้วยกระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคนับแต่นั้น ล้วนก่อให้เกิดความมั่นคงแก่พระพุทธศาสนา และทรงได้ใช้ทางน้ำหลักและสาขาแห่งนี้บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่มวลประชาราษฏร์มาโดยสม่ำเสมอ
แม้จนสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็เคยทรงเรือพระที่นั่งพายทวนน้ำขึ้นไปรอสมทบกับขบวนเรือพยุหยาตราที่ทรงส่งขึ้นไปอัญเชิญแห่สมโภชองค์’’พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร’’ที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์มาพักและผ่านกรุงเก่าเพื่อรับองค์’’พระแก้วมรกต’’มาประดิษฐานยังราชธานีใหม่
ในสมัยพระเจ้าแผ่นดินแห่งรัตนโกสินทร์สมัยทุกพระองค์ ก็ล้วนทรงฟื้นฟูสืบสานรักษาและต่อยอดพระราชประเพณีและการพัฒนาเส้นทางน้ำสายนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเสด็จพระราชดำเนินด้วยริ้วขบวนเรือพระที่นั่งในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร การเสด็จพยุหยาตราทางชลมารคในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ การเสด็จประพาสต้นทางน้ำในสมัยรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเสด็จออกเยี่ยมบำรุงประชาชนและตรวจราชการเป็นอาทิ
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ก็เคยทรงประทับเรือ’’อังสนา’’ลำนี้ เพื่อเสด็จพระราชดำเนินเปิดประตูระบายน้ำที่คลองลัดโพธิ์ ตามพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ส่งให้น้ำที่หลากลงมาผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถไหลถึงทะเลได้โดยรวดเร็ว
ดังนั้นกิจกรรมของกัลยาณมิตรซึ่งกำลังร่วมกันสร้างพระพุทธรูปกลางน้ำทางทะเล ที่ต่างก็เป็นพสกนิกรของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยได้มาร่วมกันกระทำความดี อย่างมีสามัคคีกลางสายน้ำแห่งความผูกพัน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยได้พระราชทานทั้งความมั่นคง ความรุ่งเรือง ทางการค้า การท่องเที่ยว การบรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติให้ราษฏรของพระองค์ ในเดือนที่เคยมีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ถึง 2 พระองค์เคยเสด็จสวรรคตในเดือนตุลาคม คือวันที่ 13 ตุลาคมวันหนึ่ง และในวันที่ 23 ตุลาคมอีกวันหนึ่ง จึงนับเป็นกุศลที่สมควรทำ… ‘’ นายวีระศักดิ์กล่าวในตอนท้าย
ในการนี้ ท่านโชติวัฒน์ และคุณสุพัตรา เหลืองประเสริฐประธานศาลฎีกาและภริยา ร่วมกับท่านรุ่งศักดิ์ วงศ์กระสันต์ประธานคดียาเสพติดในศาลอุธรณ์ในฐานะเลขาธิการประธานศาลฏีกา และท่านจรัล วิจิตรา รองเลขาธิการประธานศาลฏีกาก็ได้กรุณาเดินทางมาร่วมลงล่องเรืออังสนา และมอบเงินสมทบทุนสร้างพระขาว ที่เกาะช้างจังหวัดตราดด้วย
จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมล่องเรือได้ร่วมกันขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์หลากหลายเพลง ร่วมกับศิลปินรับเชิญ คุณปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว และร่วมกันยืนร้องเพลง ความฝันอันสูงสุด และเพลงสรรเสริญพระบารมีกันอย่างพร้อมเพรียง