ธนาคารปูม้าแหลมผักเบี้ย กินกันได้แบบยั่งยืน เมื่อคืนปูรุ่นลูกให้ธรรมชาติ
“ชาวบ้านจึงใช้ผลการศึกษาดูงานจากที่อื่นมาพัฒนาให้มีถังไว้เก็บแม่ปูที่มีไข่แล้ว..ซึ่งดูง่ายๆว่าถ้าที่ท้องมีไข่สีออกเหลืองๆเป็นพวง..แปลว่าอีก 7 วันไข่จะกลายเป็นลูกปู ถ้าเป็นสีคล้ำลงจนดำ แปลว่าใน24ชม.จะเป็นลูกปู ซึ่งลูกปูจะอ่อนแอมาก ดังนั้นธนาคารปูม้าจึงเอาแม่ปูมีไข่มาหย่อนไว้ในถังที่มีฟองเพิ่มออกซิเจน เพื่อทำให้แม่ปูอยู่ได้ดีไม่มีการรบกวนจนไข่เป็นลูกปู คราวละกว่าแสนตัว จากนั้นก็ให้นักท่องเที่ยวเอาถังใบเล็กมาตักไปเทปล่อยที่ทะเลช่วงน้ำลง เพื่อให้น้ำทะเลพาลูกปูออกสู่ชายฝั่งป่าโกงกาง จะได้มีโอกาสรอดและเติบโต”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วิธีนี้ช่วยทำให้มีปูรอดเพิ่มในแต่ละท้องอีกราว10% เพิ่มทั้งความสมบูรณ์ให้ธรรมชาติ และเพิ่มความยั่งยืนให้ชาวประมงจับปู เพิ่มความยั่งยืนให้การท่องเที่ยวดูงาน นักท่องเที่ยวมักจะยินดีมอบเงินสนับสนุนธนาคารปูม้ากันเอง ซึ่งกลับมียอดสูงกว่าการคิดค่าตักปูไปปล่อยแบบถังละไม่กี่บาท จากนั้นนักท่องเที่ยวก็จะก็จะไปซื้อผลผลิตจากเรือประมงที่จับมาได้และมีแม่บ้านของชุมชนช่วยทำสุกให้รับประทาน ที่เพิงริมท่าขึ้นปลาเลย
นายวีระศักดิ์ บอกด้วยว่า ชาวบ้านใช้หลักความพอเพียงพอประมาณในการบริหารกิจการท่องเที่ยวนี้ ไม่ยอมเปิดเป็นร้านอาหารเพราะนั่นคือการต้องทำเมนูตามใจตลาด แต่ชาวบ้านตัดสินใจว่านักท่องเที่ยวต้องเลือกทานแต่สิ่งที่ที่นี่มีในวันนี้จากเรือประมงเท่านั้น ดังนั้น..ที่นี่จึงต้องสั่งวัตถุดิบมาจากข้างนอก ขายในสิ่งที่มี กินแต่สิ่งที่หา ซึ่งลูกค้าชมมากว่าอร่อย สด และได้บรรยากาศจริงแท้ของชาวบ้าน จึงเพิ่มปริมาณมาดูงานศึกษากิจกรรมทั้งประมง ทั้งการปลูกพืชผัก การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น และอื่นๆที่ชาวบ้านใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทำไว้
“โดยชุมชนเมื่อประชุมและพาผมตักลูกปูไปปล่อยแล้ว..ชาวบ้านขอรับการช่วยเหลือจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯเรื่องป้ายบอกทาง ห้องน้ำสำหรับคนเดินทาง และขอรถรางนำชม เพราะที่ใช้อยู่คือรถสามล้อแดงซึ่งเล็กเกินกว่าจะรับนักท่องเที่ยวดูงานที่มักมาเป็นคันรถบัส และขอรูปปั้นปูตัวโตๆมาเป็นสัญลักษณ์ด้านหน้าให้เป็นแลนด์มารค์ให้นักท่องเที่ยวมาถูก มาถึงง่ายขึ้น มีรถพาชมฐานงานพัฒนาไปตามจุดต่างๆของชุมชนที่สะดวกขึ้น ซึ่งรองอธิบดีกรมการท่องเที่ยวซึ่งมาด้วยในคณะได้รับประเด็นนี้ไปตั้งคำของบมาดำเนินการให้ในปี 62 ต่อไปครับ “นายวีระศักดิ์ กล่าว
“คืนนี้ผมมุ่งหน้าต่อไปประจวบคีรีขันธ์ ค้างแรมในโฮมสเตย์ของชมรมท่องเที่ยวชุมชนอ่าวน้อย พรุ่งนี้จะเยี่ยมประชุมกับชุมชนท่องเที่ยวของกลุ่มชาวบ้านเผ่าไทยทรงดำ แล้วจึงแล่นย้อนมาพบกับชุมชนที่แก่งกระจาน ของจ.เพชรบุรีต่อไปครับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา มติชนออนไลน์