ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org

เว็บไซต์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
มีความมุ่งมั่นเเละตั้งใจในการเผยแพร่เรื่องราวความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์สังคมด้วย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมกฎหมายและการปกครอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป
มองโลก มองความยั่งยืน
จบปริญญาโท กฎหมายสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อดีตสมาชิกในบ้านพิษณุโลกมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีประสบการณ์พัฒนานโยบายสาธารณะมาต่อเนื่อง เป็นนักกฎหมายที่เชื่อมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ผู้ที่มีความมุ่งมั่นเเละมีอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์สังคมที่มีความเท่าเทียม การพัฒนาประเทศไทยให้มีความทันสมัย เจริญเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

พิจารณาแนวทางการจัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่าชายเลน 

คณะ อนุ กมธ. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน วุฒิสภา พิจารณาแนวทางการจัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่าชายเลน 

28 ต.ต.66 - คณะ อนุ กมธ. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน วุฒิสภา พิจารณาแนวทางการจัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่าชายเลน แนะให้กระทรวงการคลัง เสนอร่าง พ.ร.ก. ยกเว้นภาษีที่ดินทุกจุดที่มีสภาพเป็นป่าชายเลนเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมอนุรักษ์ระบบนิเวศที่มีคุณค่าสูง

 

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่าชายเลนอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในประเด็นที่เกี่ยวกับนิยาม คำว่า “พื้นที่สีเขียว”และในเบื้องต้น แม้ส่วนราชการจะมีแนวความเห็นว่าการพิจารณาว่าพื้นที่ป่าชายเลนใดเป็นพื้นที่ที่ควรอนุรักษ์ควรกำหนดให้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) และโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) ซึ่งดำเนินการโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) มาใช้พิจารณาการรับรองว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียว

นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุ กมธ. เห็นว่า ป่าชายเลนนั้นเป็นระบบนิเวศพิเศษที่ย่อมมีน้ำทะเลท่วมถึง มีอิทธิพลจากน้ำขึ้นน้ำลง และไม่ได้มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ จึงเป็นไปได้ยากที่เจ้าของที่ดินเอกชนจะนำที่ดินป่าชายเลนไปเข้ากระบวนการขึ้นทะเบียนและเสียค่าใช้จ่ายหลักหลายแสนบาท เพียงเพื่อให้ได้การรับรองว่าเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ดูดซับก๊าซเรือนกระจก และถ้ายังคงไม่ยกเว้นภาษีที่ดินให้กับที่ดินป่าชายเลนในครอบครองของเอกชนแล้ว ก็จะเท่ากับบีบบังคับให้ประชาชนต้องจำใจเลี่ยงภาษีที่ดิน เพราะไม่ว่าจะคำนวณในอัตราใด ด้วยการถมที่ดินแล้วนำไปปลูกไม้ชนิดอื่นที่ไม่ใช่นิเวศป่าชายเลน หรือปล่อยเช่าทำบ่อกุ้งบ่อปลาหารายได้ ซึ่งก็จะทำให้สิ้นสภาพป่าชายเลนที่มีคุณค่าสูงยิ่งต่อระบบนิเวศไปอีกเช่นกัน ดังนั้น ที่ประชุม คณะอนุ กมธ. จึงเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ยกเว้นภาษีที่ดินทุกจุดที่มีสภาพเป็นป่าชายเลน คือ เป็นที่ดินที่น้ำทะเลท่วมถึง มีน้ำขึ้นน้ำลงทุกวัน และมีต้นไม้ที่เป็นไปตามธรรมชาติของนิเวศป่าชายเลนขึ้นอยู่ตามสภาพ

ณัฐพล  สงวนทรัพย์   ข่าว/เรียบเรียง ที่มา https://www.tpchannel.org/radio/news/23299